Categories
บทความและข่าวสาร

10ต้นไม้ที่ช่วยลดอุณหภูมิภายในบ้าน

10 ต้นไม้ที่ช่วยลดอุณหภูมิภายในบ้าน

10ต้นไม้ที่ช่วยลดอุณหภูมิภายในบ้าน

เมื่อพิจารณาถึงพื้นที่ที่มีให้ใช้ ควรคำนึงถึงพื้นที่ที่มีอวัยวะเพียงพอสำหรับต้นไม้เจริญเติบโตได้ ไม่ควรเลือกต้นไม้ที่ต้องการพื้นที่ขนาดใหญ่เพียงแต่มีพื้นที่จำกัด ส่งผลให้ต้นไม้ไม่สามารถเจริญเติบโตได้อย่างเต็มที่

การพิจารณาแสงแดดที่เข้าถึงเป็นสิ่งสำคัญในการเลือกต้นไม้ เพราะมีบทบาทสำคัญต่อกระบวนการสังเคราะห์แสงของต้นไม้ ต้นไม้ที่ต้องการแสงมากควรได้รับแสงแดดเพียงพอในวันละ 6-8 ชั่วโมง ในขณะที่ต้นไม้ที่อยู่ในที่แสงน้อยก็จำเป็นต้องได้รับแสงส่วนมากจากหลอมอย่างของแสง

ความชื้นในอากาศเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการเจริญเติบโตของต้นไม้ ความชื้นมากเกินไปหรือน้อยเกินไปอาจส่งผลให้ต้นไม้เจริญที่ไม่ดี ดังนั้นควรระมัดระวังในการเลือกต้นไม้ที่มีความต้องการด้านความชื้นที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของบ้าน

นอกจากนี้ยังควรพิจารณาถึงวัตถุประสงค์การปลูกต้นไม้ด้วยว่าต้องการต้นไม้ตกแต่งหรือต้นไม้ปรับปรุงคุณภาพอากาศ โดยการเลือกต้นไม้ที่ตรงกับวัตถุประสงค์ที่ต้องการจะทำให้การดูแลและการรักษาต้นไม้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

ท้ายที่สุด การเลือกต้นไม้ในบ้านที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและวัตถุประสงค์ จะทำให้เข้าใจการเลือกต้นไม้ที่ใช้การดูแลและรักษาได้อย่างถูกต้องและต้นไม้จะเจริญเติบโตได้อย่างสมบูรณ์และมีสุขภาพดีอย่างมั่นคง

10 ต้นไม้ฟอกอากาศ ที่ช่วยดูดสารพิษ คืนอากาศบริสุทธิ์ให้แก่ห้องนอนของคุณ

10 สุดยอดต้นไม้ฟอกอากาศ ที่ช่วยดูดสารพิษ
จากการศึกษาขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ (NASA) และ Associated Landscape Contractors of America (ALCA) พบว่า ต้นไม้ประดับต่างๆ ที่รู้จักกันดีนี่แหละ ที่เป็นตัวช่วยในการฟอกอากาศให้มีความบริสุทธิ์และกำจัดมลพิษต่างๆ อย่าง สารฟอร์มาลดีไฮด์ เบนซิน คาร์บอนมอนอกไซด์ และอื่นๆ อีกมากมาย โดยเฉพาะต้นไม้ฟอกอากาศเหล่านี้

 


1. ปาล์มไผ่ (Bamboo Palm)

ต้นไม้ฟอกอากาศ
สร้างอารมณ์พักผ่อนที่ชายหาดในช่วงซัมเมอร์ให้กับบ้านด้วย “ปาล์มไผ่ (Bamboo Palm)” ต้นไม้ฟอกอากาศ ใบเรียวยาวคล้ายต้นมะพร้าว ที่มีความทนทานปลูกง่าย ชอบแสงแดด ต้องการการรดน้ำอย่างสม่ำเสมอ (สัปดาห์ละ 2 – 3 ครั้ง) และใส่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกละลายน้ำเจือจางเดือนละ 1 ครั้ง โดยสามารถวางไว้ในห้องนอนที่ดูสบายๆ เป็นธรรมชาติช่วยให้ห้องมีความมินิมอลมากยิ่งขึ้น

 


2. เฟิร์นบอสตัน (Boston Fern)

ต้นไม้ฟอกอากาศ
คุณสมบัติของ “เฟิร์นบอสตัน (Boston Fern)” ในการดูดสารฟอร์มาลดีไฮด์และเชื้อราซึ่งถือเป็นหนึ่งในมลพิษภายในบ้าน และลักษณะภายนอกที่ดูสวยงามเป็นพุ่มเล็กๆ น่ารักมีชีวิตชีวานี้เอง ที่ทำให้ต้นไม้ฟอกอากาศชนิดนี้กลายเป็นที่นิยมมากขึ้นในประเทศไทย ซึ่งตัวต้นไม้ต้องการการดูแลรดน้ำวันละ 2 ครั้ง เช้า – เย็น และใส่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกละลายน้ำเจือจางเดือนละ 1 ครั้ง

 


3. มอนสเตอร่า (Monstera)

ต้นไม้ฟอกอากาศ “มอนสเตอร่า (Monstera)” ได้รับฉายาว่า ราชินีใบไม้ มีจุดเด่นเป็นใบขนาดใหญ่ โคนใบเว้าลึกเป็นรูปหัวใจแปลกตา แถมยังมีคุณสมบัติในการดูดซับสารพิษอันตรายต่างๆ ในอากาศ มีการดูแลที่ไม่ยาก โดยการวางไว้ในบริเวณที่ไม่ได้รับแสงแดดโดยตรง รดน้ำสัปดาห์ละ 1 ครั้ง หรือมากน้อยตามความชื้นในอากาศเพื่อใบที่เขียวสวยงาม แต่ไม่ควรมีการเคลื่อนย้ายบ่อย มิเช่นนั้นอาจทำให้ต้นมีการเติบโตที่ช้าลงได้

 


4.ฟิโลเดนดรอน เซลลอม (Selloum Philodendron)

ต้นไม้ฟอกอากาศในห้องนอนเรียกได้ว่าโด่งดังไปทั่วประเทศกับต้นไม้ฟอกอากาศในห้องนอน “ฟิโลเดนดรอน เซลลอม (Selloum Philodendron)” เพราะความเลี้ยงง่ายแสนง่าย อีกทั้งยังสามารถอยู่ได้ทุกสภาพอากาศและทุกพื้นที่ ไม่ว่าจะแสงเยอะหรือน้อยแค่ไหน ก็เติบโตได้ดีไม่แพ้กัน เพียงแค่รดน้ำให้พอชุ่มชื้น ใส่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกละลายน้ำเจือจางเดือนละ 1 ครั้ง ก็ทนทานมากพอแล้ว

 


5.ดราแคนน่า (Dracaena)

ต้นไม้ฟอกอากาศในห้องนอน
“ดราแคนน่า (Dracaena)” หรือ “ต้นวาสนา” ต้นไม้ในห้องนอนอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่ช่วยให้อากาศบริสุทธิ์ นอนหลับสบาย ที่ได้รับความนิยมมากในประเทศไทย เป็นได้ทั้งไม้ประดับและ ต้นไม้ฟอกอากาศในห้องนอน ที่ทำให้สุขภาพของผู้อยู่อาศัยดีขึ้น ซึ่งการดูแลก็ง่ายๆ ด้วยการตั้งบริเวณที่มีแดดรำไร รดน้ำเป็นประจำไม่ให้ดินแห้ง แต่ข้อจำกัดของต้นไม้ชนิดนี้คือ ถ้าหากคุณมีสัตว์เลี้ยง ไม่ควรปลูกภายในบ้านเพราะพวกมันเป็นพิษต่อสุนัขและแมวนั่นเอง

6.ลิ้นมังกร (SNAKE PLANT)

ต้นไม้ฟอกอากาศถ้าหากจะพูดถึงต้นไม้ที่สวยงาม หลายคนก็คงจะนึกถึงต้นไม้ชื่อเป็นมงคลอย่าง “ลิ้นมังกร (Snake Plant)” มีลักษณะใบที่สวยงามเรียวยาวคล้ายหอก ซึ่งสามารถปลูกได้ทั้งบริเวณร่มและมีแดด มีคุณสมบัติในการดูดคาร์บอนไดออกไซด์ และคายออกซิเจนออกมาในตอนกลางคืน จึงเป็นอีกหนึ่งต้นไม้ฟอกอากาศที่ควรปลูกไว้ภายในห้องนอน โดยการดูแลรดน้ำวันละ 1 ครั้ง ก็เพียงพอแล้ว

 


7.ไอวี่ อังกฤษ (English ivy)

ต้นไม้ฟอกอากาศ

“ไอวี่ อังกฤษ (English ivy)” หรือชื่อเรียกภาษาไทยว่า “ตีนตุ๊กแกฝรั่ง” ถือเป็นต้นไม้ฟอกอากาศที่องค์กรนาซายืนยันว่า สามารถช่วยฟอกอากาศได้ดีที่สุด เพราะมีคุณสมบัติในการดูดซับสารฟอร์มาลดีไฮด์ ซึ่งสามารถพบได้ในน้ำยาทาเล็บของสาวๆ อีกทั้งยังมีการดูแลไม่ยาก ด้วยการรดน้ำ 3 วันต่อ 1 ครั้ง หรือเมื่อดินแห้งสนิท โดยสามารถตกแต่งไว้ในบริเวณที่มีร่มเงาหรือมีแสงในระดับปานกลาง เป็นต้นไม้ที่นิยมตกแต่งบ้านในแถวทวีปยุโรป

8.ลาเวนเดอร์ (Lavender)

ต้นไม้ฟอกอากาศ เชื่อไหมว่า “ลาเวนเดอร์ (Lavender)” ต้นไม้ที่หลายคนคุ้นเคย ก็มีข้อดีในการฟอกอากาศในห้องนอนให้บริสุทธิ์ไม่แพ้ต้นไม้อื่นๆ ที่กล่าวมาข้างต้น นอกจากนี้ ยังมีเอกลักษณ์เป็นกลิ่นหอมที่มีคุณสมบัติในการช่วยไล่ยุงหรือแมลง บรรเทาอาการปวดหัว ปวดกล้ามเนื้อ ลดความเครียด ความกังวล ภาวะนอนไม่หลับ ซึมเศร้า และทำให้จิตใจสงบได้ ซึ่งการดูแลก็ไม่จำเป็นต้องรดน้ำบ่อย อีกทั้งยังต้องการแสงที่ไม่เยอะมากเท่าไรอีกด้วย

9.ต้นยางอินเดีย (Rubber Plant)

ต้นไม้ฟอกอากาศ“ต้นยางอินเดีย (Rubber Plant)” อีกหนึ่งต้นไม้ที่หลายคนเลือกปลูก เพราะมีลักษณะใบสีเขียวเข้มเงาเป็นวงรีสวยงาม สามารถวางตัดในห้องนอนสีขาวได้ลงตัว และยังเติบโตง่าย ทนทาน ไม่ต้องดูแลมากเท่าไรนัก เพียงแค่รดน้ำเป็นประจำ ตั้งไว้บริเวณที่โดนแสงแดด ซึ่งเจ้าตัวต้นยางอินเดียก็มีคุณสมบัติในการกำจัดสารพิษ รวมถึง เปลี่ยนคาร์บอนไดออกไซด์ให้เป็นออกซิเจนเช่นเดียวกับต้นไม้ฟอกอากาศในห้องนอนอื่นๆ

10.เดหลี (Peace Lily)

ต้นไม้ฟอกอากาศต้นไม้ในบ้านที่มีความเป็นสิริมงคลอย่าง “เดหลี (Peace Lily)” ก็เป็นอีกต้นไม้ฟอกอากาศในห้องนอนที่ได้รับความนิยมในประเทศไทยเช่นเดียวกัน เพราะความเชื่อที่ว่า จะทำให้สมาชิกในบ้านมีโชคลาภ มีอายุยืน และปัดเป่าอันตราย ซึ่งใบของต้นเดหลีจะมีลักษณะมันวาวสีเขียวเข้ม และช่วยดูดซับสารพิษและเปลี่ยนห้องนอนให้หอมสดชื่น โดยคุณจำเป็นต้องดูแลรดน้ำเพียงวันละ 1 ครั้งเท่านั้น

 

หลังจากที่ได้รู้จักกับสุดยอดต้นไม้ฟอกอากาศทั้ง 10 ชนิดไปแล้ว ก่อนที่จะทำการเลือกประดับตกแต่งต้นไม้ต่างๆ แต่ละชนิดภายในห้องนอน ก็ลองอ่านข้อควรรู้และสิ่งที่ควรพิจารณาเหล่านี้ให้ดีเสียก่อน

1.ควรเลือกต้นไม้ CAM Plant (Crassulacean Acid Metabolism Plant)
ต้นไม้ CAM Plant หรือ พืชกลางคืน เป็นต้นไม้ที่จะมีกระบวนการหายใจแตกต่างกับต้นไม้ปกติทั่วไป ตัวลำต้นจะมีคุณสมบัติในการกักเก็บน้ำ ทำให้ไม่จำเป็นต้องรดน้ำอยู่เป็นประจำ มีใบน้อยเพื่อลดการคายน้ำ โดยในตอนกลางคืน พืชประเภทนี้ก็จะเปิดปากใบเพื่อเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ และใช้ในการสังเคราะห์แสงในตอนเช้า

2.พิจารณาความเหมาะสมของสภาพแวดล้อม และข้อมูลพันธุ์ไม้
ก่อนตัดสินใจปลูกต้นไม้ฟอกอากาศในห้องนอน ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับพันธุ์ไม้นั้นๆ เพื่อการดูแลรักษาต้นไม้ที่เหมาะสมและความปลอดภัยของสมาชิกภายในบ้าน เพราะต้นไม้แต่ละชนิดก็มีคุณสมบัติโดดเด่นแตกต่างกันไป นอกจากนี้ ควรพิจาณาถึงสุขภาพส่วนตัวของสมาชิกในครอบครัว ที่ต้นไม้บางชนิดอาจส่งผลในทางลบได้ เช่น โรคภูมิแพ้ เป็นต้น

ในปัจจุบัน ด้วยไลฟ์สไตล์การทำงานที่อาจก่อให้เกิดความเครียดกับคนรุ่นใหม่ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น การปลูกต้นไม้ฟอกอากาศในห้องนอนหรือในตัวบ้านนั้น ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ ในการปรับแต่งที่อยู่อาศัย เพื่อสร้างความสุขและความผ่อนคลายในการใช้ชีวิตของทุกคนได้มากยิ่งขึ้น

อ้างอิง https://www.apthai.com/th/blog/living-series/designanddecor-air-purifying-plants-for-bedroom

Categories
บทความและข่าวสาร

การจัดสวนในบ้าน

การจัดสวนบ้าน

การจัดสวน

การจัดสวนเมันเป็นเรื่องที่ผสมผสานความสวยงามของธรรมชาติและการออกแบบเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ นอกจากนี้ยังเป็นกิจกรรมที่ช่วยเพิ่มคุณค่าให้กับบ้านและสร้างสุขภาพจิตที่ดีให้กับผู้อาศัยด้วย

สิ่งแรกที่ควรพูดถึงคือการวางแผนการจัดสวน เช่น การเลือกพืชที่เหมาะสมกับพื้นที่และสภาพอากาศในพื้นที่ของคุณ การวางแผนเส้นทางเดินเท้าและพื้นที่พักผ่อน เพื่อให้การใช้งานง่ายและสะดวกสบาย

นอกจากนี้ยังมีเทคนิคการจัดสวนที่น่าสนใจ เช่น การใช้ต้นไม้และพืชต่างๆ ในการสร้างพื้นที่เขียว เลือกตกแต่งต้นไม้ตามฤดูกาล หรือการใช้สระน้ำหรือน้ำพุในการตกแต่งที่น่าสนใจ

การจัดสวนในบ้านเป็นกิจกรรมที่น่าสนุกและมีประโยชน์ในการสร้างสภาพแวดล้อมที่สดชื่นและสวยงาม นอกจากนี้ยังช่วยให้ปลอดโปร่งและสร้างพื้นที่สำหรับการฟื้นฟูจิตใจและปลดปล่อยความเครียด

การจัดสวนในบ้านสามารถแบ่งออกเป็นหัวข้อต่างๆ

การเลือกพืช

การเลือกซื้อและปลูกพืชสวนตามความชอบ และพิจารณาถึงสภาพอากาศและสภาพดินที่เหมาะสม

การดูแลรักษาพืช

การให้น้ำ การใส่ปุ๋ย การตัดแต่ง และดูแลสวนอย่างต่อเนื่อง

การจัดระเบียบพื้นที่ 

การวางและตกแต่งพื้นที่ให้เป็นได้ดี โดยสร้างที่พักผ่อน ที่สำหรับประท้วงและที่ให้ความร้องลำพัง

การใช้วัสดุตกแต่ง

การเลือกใช้วัสดุตกแต่งที่เหมาะสมและเพื่อสร้างความสวยงามและส่วนตัวในสวน

สรุป

การจัดสวนในบ้านสามารถช่วยสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำและสร้างความสุขในการใช้เวลาอยู่กับธรรมชาติและสวนสวรรค์ของคุณในสถานที่สงบสุขและปลอดโปร่ง
การสร้างสวนในบ้านเป็นกิจกรรมที่น่าสนุกและมีประโยชน์ต่อสุขภาพทั้งกายและใจของเรา นอกจากการสร้างที่อยู่อาศัยที่สวยงามและเต็มไปด้วยพืชสร้างสรรค์ การสร้างสวนยังช่วยเพิ่มคุณค่าให้กับบ้าน ลดการปล่อยกําลังการผลิตคาร์บอน และส่งเสริมการช่วยเหลือต่อสิ่งแวดล้อมต่างๆ ได้อีกด้วย

นอกจากนี้ การทำสวนในบ้านยังเป็นวิถีชีวิตที่สมบูรณ์แบบและดีต่อสุขภาพใจ โดยการใช้เวลาในสวนสามารถช่วยลดความเครียดและสร้างความสงบสุขให้กับจิตใจ เชื่อมต่อกับธรรมชาติและสร้างความสมาคมในครอบครัว

สวนในบ้านสามารถเริ่มต้นได้จากพื้นที่เล็กๆ บนระเบียงหรือด้านหน้าบ้าน และสามารถปลูกพืชตามความต้องการของคุณ เช่น พืชผักสลัด ผลไม้ เฮอร์บสลัส ต้นไม้ตกแต่ง หรือสรรพคุณต่าง ๆ ตามความถนัดและความสนใจของคุณ

ดังนั้นการสร้างสวนในบ้านไม่เพียงทำให้บ้านของคุณดูสวยงาม แต่ยังช่วยเพิ่มคุณค่าให้กับสุขภาพร่างกายและใจของคุณด้วย

Categories
บทความและข่าวสาร

การอนุรักษ์พลังงานในบ้าน

การอนุรักษ์พลังงานในบ้าน

การอนุรักษ์พลังงานในบ้าน

              เป็นเรื่องที่สำคัญทั้งในเชิงการประหยัดค่าใช้จ่ายและการลดผลกระทบต่อ เพื่อให้บ้านของเราน่าอยู่ และเป็นการรักโลกไปในตัว โดยวิธีการมีด้วยกันง่ายๆดังนี้

1.เปิดหน้าต่างรับลมและรับแสงธรรมชาติ:

การเปิดหน้าต่างให้รับลมและแสงธรรมชาติเข้าสู่บ้านไม่เพียงแค่ช่วยลดการใช้พลังงานและค่าใช้จ่าย แต่ยังเสริมสร้างคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยให้ดียิ่งขึ้นด้วย

1.1 ประโยชน์ของการเปิดหน้าต่างรับลมและแสงธรรมชาติ

ลดการใช้พลังงาน: การเปิดหน้าต่างเพื่อรับลมสะอาดและการรับแสงธรรมชาติช่วยลดการใช้พลังงานในการทำความเย็นหรือทำความร้อนในบ้าน เนื่องจากลมและแสงอาจช่วยให้บ้านคงอยู่ในสภาพสบายมากขึ้น

สุขภาพที่ดี: การได้รับแสงแดดซึ่งเป็นแหล่งสร้างวิตามิน D ที่จำเป็นสำหรับร่างกาย และลมสะอาดที่เข้ามาจะช่วยระบายอากาศภายในบ้านให้มีคุณภาพดีขึ้น

ความสะดวกสบายทางจิตใจ: การมีแสงธรรมชาติที่เข้ามาในบ้านช่วยเพิ่มความกระจ่างใจและช่วยลดความเครียดในชีวิตประจำวัน

1.2 วิธีการเปิดหน้าต่างให้เหมาะสม

เลือกสำหรับทิศทางและขนาด: การเลือกตำแหน่งของหน้าต่างที่เหมาะสมทั้งทิศทางและขนาด เพื่อให้ได้รับแสงแดดและลมสะอาดในปริมาณที่เหมาะสม

2.การใช้หลอดไฟ LED

เป็นหนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพในการอนุรักษ์พลังงานในบ้าน เนื่องจากหลอด LED มีคุณสมบัติที่ช่วยลดการใช้พลังงานไฟฟ้าได้มาก และมีข้อดีหลายประการดังนี้:

ประหยัดพลังงาน: หลอด LED ใช้พลังงานไฟฟ้าน้อยกว่าหลอดไฟธรรมดาถึง 80-90% ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายในการใช้ไฟภายในบ้านได้มาก

อายุการใช้งานยาวนาน: หลอด LED มีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าหลอดไฟธรรมดาถึง 10-20 เท่า ซึ่งส่งผลให้ลดการเปลี่ยนหลอดไฟบ่อยๆ และลดการสะสมขยะที่เกิดจากหลอดไฟที่เสีย

ไม่มีสารพิษ: หลอด LED ไม่มีสารพิษเช่น ทองแดง ทำให้เป็นทางเลือกที่ดีต่อสิ่งแวดล้อม

ประสิทธิภาพสูง: หลอด LED มีความสว่างสูงและสามารถแสดงสีได้ตามต้องการ และไม่มีปัญหาเรื่องการเปิด-ปิดบ่อยที่ส่งผลต่ออายุการใช้งาน

3.การติดตั้งอุปกรณ์ปรับอากาศที่มีประสิทธิภาพ

เป็นอีกหนึ่งในวิธีที่สำคัญในการอนุรักษ์พลังงานในบ้าน โดยเฉพาะเมื่อพูดถึงระบบ Inverter Air Conditioner ซึ่งมีข้อดีต่อไปนี้:

ประหยัดพลังงาน: Inverter Air Conditioner ใช้ไฟฟ้าน้อยกว่ารุ่นทั่วไป เนื่องจากมีการควบคุมความเย็นแบบอัตโนมัติโดยไม่ต้องเปิด-ปิดหยุดเพียงครั้งเดียว

ประสิทธิภาพในการทำความเย็น: ระบบ Inverter ช่วยลดการใช้พลังงานในระหว่างการทำงานโดยปรับความเย็นของเครื่องแอร์ให้เหมาะสมกับการใช้งาน

การทำงานเงียบ: หลังจากที่ได้รับคำสั่งทำงาน ครั้งแรกแล้วเครื่องปรับอากาศเริ่มทำงานที่ขาดคราว

4.การติดตั้งระบบพลังงานทดแทน

เช่น แผงโซลาร์เซลล์เป็นการลงทุนที่สามารถช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการใช้พลังงานภายในบ้านได้มาก นี่คือข้อดีหลักของการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์:

ประหยัดค่าใช้จ่าย: การใช้แผงโซลาร์เซลล์ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการใช้ไฟฟ้าภายในบ้านได้มาก โดยลดลงจากการใช้พลังงานจากบริษัทไฟฟ้าและลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา

การอนุรักษ์พลังงานในบ้านไม่เพียงแค่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย แต่ยังเป็นการลดรายจ่ายในการบำรุงรักษาและเป็นการช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่เป็นประโยชน์อย่างมากด้วยครับ

Categories
บทความและข่าวสาร

การนำวัสดุธรรมชาติเช่น ไม้ไผ่และหวายมาใช้ในการตกแต่งบ้าน

การนำวัสดุธรรมชาติเช่น ไม้ไผ่และหวายมาใช้ในการตกแต่งบ้าน

การนำวัสดุธรรมชาติมาใช้ในการตกแต่งบ้านเป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรงในปี 2024 ไม่เพียงแต่จะเพิ่มความสวยงามและความอบอุ่นให้กับบ้านของคุณ แต่ยังเป็นการช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมอีกด้วย วัสดุอย่างไม้ไผ่และหวายเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมในการตกแต่งบ้านให้มีความเป็นธรรมชาติและยังคงความทนทานได้ดี เรามาดูกันว่าการนำวัสดุเหล่านี้มาใช้ในการตกแต่งบ้านมีประโยชน์อย่างไรและวิธีการใช้งานที่เหมาะสม

1. ประโยชน์ของการใช้ไม้ไผ่และหวายในการตกแต่งบ้าน

ความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม: ไม้ไผ่และหวายเป็นวัสดุที่สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติและสามารถปลูกใหม่ได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เป็นตัวเลือกที่ยั่งยืนสำหรับการตกแต่งบ้าน
ความทนทาน: วัสดุเหล่านี้มีความแข็งแรงและทนทานต่อการใช้งาน ทำให้เหมาะสำหรับการใช้ทำเฟอร์นิเจอร์หรือของตกแต่งบ้านที่ต้องการความแข็งแรง
ความสวยงามตามธรรมชาติ: ลวดลายและสีสันของไม้ไผ่และหวายช่วยเพิ่มความอบอุ่นและความเป็นธรรมชาติให้กับบ้านของคุณ

2. การใช้ไม้ไผ่และหวายในการตกแต่งห้องต่าง ๆ

ห้องนั่งเล่น: การใช้เฟอร์นิเจอร์จากไม้ไผ่ เช่น โต๊ะกลางหรือโซฟา สามารถเพิ่มความอบอุ่นและความเป็นธรรมชาติให้กับห้องนั่งเล่น นอกจากนี้ยังสามารถใช้ของตกแต่งจากหวาย เช่น กระเช้าหวายหรือตะกร้าหวาย เพื่อเพิ่มความสวยงาม
ห้องครัว: การใช้ชั้นวางของจากไม้ไผ่หรือโต๊ะอาหารจากหวายช่วยเพิ่มความเป็นธรรมชาติให้กับห้องครัว และยังทนทานต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน
ห้องนอน: การใช้หัวเตียงหรือโครงเตียงจากหวายช่วยเพิ่มความอบอุ่นและสบายให้กับห้องนอน นอกจากนี้ยังสามารถใช้โคมไฟจากไม้ไผ่เพื่อเพิ่มบรรยากาศอบอุ่น

3. วิธีการดูแลรักษาไม้ไผ่และหวาย

การทำความสะอาด: ใช้ผ้านุ่มชุบน้ำหมาด ๆ เช็ดทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาทำความสะอาดที่มีสารเคมีเข้มข้น
การรักษาความชื้น: หลีกเลี่ยงการวางเฟอร์นิเจอร์ไม้ไผ่และหวายในที่ที่มีความชื้นสูง เพื่อป้องกันการเกิดเชื้อราและการเสียรูป
การป้องกันแสงแดด: หลีกเลี่ยงการวางเฟอร์นิเจอร์ในที่ที่โดนแสงแดดตรงๆ เป็นเวลานาน เพื่อป้องกันการเปลี่ยนสีและการเสื่อมสภาพ

สรุป

การนำวัสดุธรรมชาติเช่น ไม้ไผ่และหวายมาใช้ในการตกแต่งบ้านเป็นวิธีที่ดีในการเพิ่มความสวยงามและความอบอุ่นให้กับบ้านของคุณ วัสดุเหล่านี้ไม่เพียงแต่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แต่ยังมีความทนทานและสวยงามตามธรรมชาติ การดูแลรักษาที่ถูกต้องจะช่วยให้เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งจากไม้ไผ่และหวายมีอายุการใช้งานยาวนาน ลองนำเทคนิคเหล่านี้ไปใช้ในการตกแต่งบ้านของคุณดูนะครับ

Categories
บทความและข่าวสาร

เทรนด์การตกแต่งภายในปี 2024: วิธีการเลือกใช้แสงหลายชั้นเพื่อสร้างบรรยากาศที่หลากหลาย

ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ มิถุนายน 2567 เช็กฤกษ์มงคล เวลาดี ก่อนย้ายเข้า

การตกแต่งภายในบ้านไม่ได้หยุดอยู่ที่การเลือกเฟอร์นิเจอร์หรือสีผนังเท่านั้น แต่การใช้แสงอย่างชาญฉลาดก็เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยสร้างบรรยากาศและเพิ่มความรู้สึกอบอุ่นให้กับพื้นที่ในบ้าน ในปี 2024 เทรนด์การใช้แสงหลายชั้นกำลังมาแรง มาดูกันว่าคุณสามารถนำวิธีนี้ไปใช้ในการตกแต่งบ้านของคุณได้อย่างไรบ้าง

1 การใช้แสงหลายชั้นคืออะไร?

การใช้แสงหลายชั้นคือการรวมแสงจากแหล่งต่าง ๆ ในห้องเดียวกัน เพื่อสร้างบรรยากาศที่หลากหลายและมีมิติ เทคนิคนี้ช่วยให้ห้องสามารถเปลี่ยนบรรยากาศได้ตามการใช้งาน เช่น จากการทำงานที่ต้องการแสงสว่างมาก ไปสู่การพักผ่อนที่ต้องการแสงนวลสบายตา

2 ประเภทของแสงในบ้าน

ในการตกแต่งภายในด้วยแสงหลายชั้น เราสามารถแบ่งแสงออกเป็นสามประเภทหลัก ได้แก่
  • แสงพื้นฐาน (Ambient Lighting): แสงที่ใช้ในการให้ความสว่างทั่วไปในห้อง เช่น โคมไฟเพดาน หรือไฟดาวน์ไลท์
  • แสงเน้น (Accent Lighting): แสงที่ใช้เพื่อเน้นจุดสำคัญหรือวัตถุในห้อง เช่น โคมไฟติดผนังที่เน้นภาพวาดหรือรูปปั้น
  • แสงทำงาน (Task Lighting): แสงที่ใช้สำหรับกิจกรรมเฉพาะ เช่น โคมไฟตั้งโต๊ะสำหรับอ่านหนังสือ หรือไฟใต้ตู้ในห้องครัว

3 การจัดวางแสงหลายชั้นในห้องต่าง ๆ

  • ห้องนั่งเล่น: ใช้แสงพื้นฐานจากโคมไฟเพดาน เพิ่มแสงเน้นจากโคมไฟตั้งพื้นหรือติดผนังเพื่อสร้างบรรยากาศอบอุ่น และเพิ่มแสงทำงานในพื้นที่ที่ต้องการ เช่น มุมอ่านหนังสือ
  • ห้องครัว: ใช้แสงพื้นฐานเพื่อให้ความสว่างทั่วถึง เพิ่มแสงเน้นใต้ตู้เก็บของเพื่อเน้นพื้นที่ทำอาหาร และเพิ่มแสงทำงานที่เคาน์เตอร์ครัว
  • ห้องนอน: ใช้แสงพื้นฐานจากโคมไฟเพดานที่สามารถหรี่แสงได้ เพิ่มแสงเน้นจากโคมไฟข้างเตียงหรือไฟดาวน์ไลท์ และเพิ่มแสงทำงานที่โต๊ะทำงานหรือมุมอ่านหนังสือ

4 การเลือกแหล่งแสงที่เหมาะสม

การเลือกแหล่งแสงที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ ควรคำนึงถึงการใช้หลอดไฟที่มีอุณหภูมิสีต่าง ๆ เพื่อสร้างบรรยากาศที่แตกต่างกัน เช่น ใช้หลอดไฟสีขาวนวลในพื้นที่ทำงานและหลอดไฟสีเหลืองอบอุ่นในพื้นที่พักผ่อน

5 การควบคุมแสงด้วยระบบอัจฉริยะ

ระบบควบคุมแสงอัจฉริยะ เช่น การใช้หลอดไฟที่สามารถปรับความสว่างและสีผ่านสมาร์ทโฟน ช่วยให้คุณสามารถปรับเปลี่ยนบรรยากาศในห้องได้ตามต้องการ นอกจากนี้ยังสามารถตั้งเวลาเปิดปิดไฟตามการใช้งานจริงได้อีกด้วย

สรุป

การใช้แสงหลายชั้นในการตกแต่งภายในบ้านเป็นเทคนิคที่ช่วยสร้างบรรยากาศที่หลากหลายและมีมิติ ไม่ว่าจะเป็นห้องนั่งเล่น ห้องครัว หรือห้องนอน การใช้แสงหลายชั้นช่วยให้ห้องของคุณดูมีชีวิตชีวาและอบอุ่นมากยิ่งขึ้น ลองนำเทคนิคนี้ไปใช้ในการตกแต่งบ้านของคุณดูนะครับ การใช้แสงหลายชั้นไม่ได้เพียงแค่เพิ่มความสวยงามให้กับบ้านของคุณ แต่ยังช่วยให้คุณสามารถใช้พื้นที่ในบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย
Categories
บทความและข่าวสาร

ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ มิถุนายน 2567 เช็กฤกษ์มงคล เวลาดี ก่อนย้ายเข้า

ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ มิถุนายน 2567 เช็กฤกษ์มงคล เวลาดี ก่อนย้ายเข้า

Categories
บทความและข่าวสาร

หนี้ที่กำลังจะเสีย 60-70% ของสินเชื่อที่อยู่อาศัย มาจากคนผ่อนบ้านราคาไม่เกิน 3 ล้าน

หนี้ที่กำลังจะเสีย 60-70% ของสินเชื่อที่อยู่อาศัย มาจากคนผ่อนบ้านราคาไม่เกิน 3 ล้าน

Categories
บทความและข่าวสาร

วิธีดูแลบ้านให้สะอาด คงทน ยืดอายุบ้านให้น่าอยู่ยาวนานยิ่งขึ้น

วิธีดูแลบ้านให้สะอาด คงทน ยืดอายุบ้านให้น่าอยู่ยาวนานยิ่งขึ้น

Categories
บทความและข่าวสาร

การดูแลรักษาบ้าน ทำงานบ้าน ทำความสะอาดบ้าน แต่ละปีควรทำอะไรบ้าง

การดูแลรักษาบ้าน ทำงานบ้าน ทำความสะอาดบ้าน แต่ละปีควรทำอะไรบ้าง

Categories
บทความและข่าวสาร

5 ต้นไม้ ช่วยลดอุณหภูมิภายในห้อง

5 ต้นไม้ ช่วยลดอุณหภูมิภายในห้อง